การสื่อสารข่าวประเสริฐในบริบทพุทธศาสนาไทย
โดย ถนัด เหมโส
ผมได้รับเชิญจากมิตรสหายที่เคยเป็นนักกิจกรรมด้วยกันสมัยเป็นนักศึกษาเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว (ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519)
ให้ไปร่วมสัมมนากับคริสต์ศาสนิกชนที่เป็นคริสเตียนในหัวข้อ การประกาศพระกิตติคุณในบริบทสังคมไทย (พุทธศาสนา)
ที่ พระคริสตธรรมเชียงใหม่ ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 พระคริสตธรรมเชียงใหม่เป็นสถาบันศาสนศาสตร์สังกัดมูลนิธิสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย ผมเองในช่วงนี้กำลังเก็บข้อมูลเพื่อทำวิจัย ในเรื่อง พระสงฆ์ไทย:ความเชื่อและบทบาททางการเมืองในปัจจุบัน (THai Sangha:Belief And Political Role In Current Time) ด้วยความคาดหวังว่าอาจได้พบแนวคิดใหม่ๆจากการสัมมนาครั้งนี้
การสัมมนานำโดย ศจ.ดร. บัณฑูร บุญอิต ซึ่งเป็นศิษยาภิบาลในเครือคริสตจักรสัมพันธวงศ์ มูลนิธิสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย ผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 60 คน ประกอบไปด้วยผู้ปฎิบัติงานในการเผยแพร่ศาสนาของคริสตจักรในเชียงใหม่ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่เป็นคริสเตียนและผู้ที่สนใจจำนวนหนึ่ง ผมรู้สึกแปลกใจและเคยตั้งข้อสังเกตุกับเพื่อนที่ทำงานทางวัฒนธรรมด้วยกันว่า เราพบว่า มีอดีตนักศึกาาและประชาชนที่เคยเข้าป่าช่วงหลัง 6 ตุลา 19 กว่า 70 เปอร์เซ็นต์เปลี่ยนความเชื่อทางศาสนาจากพุทธมาเป็นคริสเตียนและเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัดจริงจังเหมือนกับสมัยที่พวกเขาเข้าร่วมการปฏิวัติกับพรรคคอมมิวนิสตืแห่งประเทศไทย ที่เชียงใหมเช่น บุคลากรทางการแพทยืหลายๆคนที่เคยเป็นนักกิจกรรมและเคยเข้าป่า ก็เป็นคริสเตียน อย่างไรแล้วผมจะกล่าวในภายหลัง
เนื้อหาในการสัมมนามาจากงานวิจัยของ ดร.บัณฑูร บุญอิต เรื่อง ปัญหาในการสื่อสารเรื่อง ความบาป (Sin) ข้ามสู่โลกทัศน์พุทธ
ประเด็นปัญหาคือ การสื่อสารข่าวประเสริฐ(หรือหลักคำสอนของคริสต์ศาสนา)ในบริบทของพุทธศาสนาไทยไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
ต่อไปนี้คือตัวแปรและประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-มิชชันนารีได้นำข่าวประเสริฐมาสู่ประเทศไทยกว่า 500 ปีแล้ว แต่เหตุใดจึงมีคริสเตียนในประเทศไทยไม่ถึง 1 %
-จริงหรือที่พี่น้องคนไทยปฏิเสธพระคริสต์เพราะการมาเป็นคริสเตียนจะทำให้คนไทยอกตัญญูต่อชาติต่อบรรพบุรุษของตน
-ทำไมทั้งๆที่พูดภาษาไทยแต่คนฟังที่มาจากพื้นครอบครัวพุทธฟังแล้วไม่เข้าใจเหมือนอย่างที่เราอยากจะสื่อสารให้เขาเข้าใจ
-จริงหรือที่ภาพพจน์ของคริสเตียนในเมืองไทยไม่ดีจึงทำให้คนไทยไม่สนใจพระกิตติคุณ
-ที่ผ่านมาเราไม่ได้สื่อพระคริสต์ในลักษระที่เพื่อนชาวพุทธจะเข้าใจและมีความหมายสำหรับชีวิตพวกเขา
-คริสเตียนจะต้องตื่นขึ้นและตระหนักว่าข่าวประเสริฐที่เรากำลังสื่อออกไปนั้นไม่เป้นที่เข้าใจสำหรับพี่น้องที่มีโลกทัศน์พุทธ
ที่กล่าวมาโดยสรุปนั้น หากเรามองอย่างวิเคราะห์แล้วเราจะพบว่า ผู้ที่เป็นคริสเตียนนั้นมีความจริงจังมากในการดำเนินกิจกรรมทางศาสนาในมิติต่างๆการสัมมนาดังกล่าวคือการหาบทสรุปเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และรูปแบบในการเผยแพร่ศาสนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสัมมนาครั้งนี้นอกจากผมจะได้รับข้อมูลทางวิชาการด้านศาสนาในอีกมิติหนึ่งแล้ว ผมยังได้พบกับการกับบริหารจัดการงานเผยแพร่ศาสนอย่างเป็นระบบ เป็นวิทยาศาสตร์และมีความต่อเนื่องของคริสต์จักรต่างๆ ซึ่งองค์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการทางพุทธสาสนาควรจะนำมาเปรียบเทียบกับการบริหารงานทางศาสนาของตนเองบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น